top of page
โปรแกรมสารเติมเต็ม ที่ Doctor Designs Clinic.jpg
CI DDC.jpg

Filling Substance 

สารเติมเต็มคืออะไร ?

สารเติมเต็ม (Filling Substance) คือสารเติมเต็มที่ใช้ในการเสริมความงามและปรับรูปทรงใบหน้า สารเติมเต็มที่นิยมใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างการสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ตามธรรมชาติ สารเติมเต็มจะช่วยเติมเต็มบริเวณที่ขาดเนื้อเยื่อ เช่น

ช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียน  หรือส่วนที่ต้องการปรับรูปทรงให้ดูสมดุลและทำให้ผิวดูเต็มสุขภาพดีขึ้น

จุดที่สามารถฉีดสารเติมเต็มได้

สารเติมเต็มสามารถฉีดในจุดต่างๆ บนใบหน้าและร่างกายเพื่อแก้ปัญหาและปรับรูปทรงได้หลายอย่าง ดังนี้:​​

  • ​​ร่องแก้ม: ช่วยปรับผิวที่เกิดจากการยิ้มหรือการแสดงอารมณ์ ให้ผิวดูเรียบเนียน

  • ใต้ตา: ลดความหมองคล้ำและถุงใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น

  • แก้ม: เติมเต็มแก้มที่หายไป ทำให้ใบหน้าดูเต็ม สุขภาพดีและมีมิติ

  • ปาก: เพิ่มความอิ่มเอิบและปรับรูปทรงปากให้ดูสวยอิ่มน้ำ

  • คาง: ปรับรูปทรงคางให้เรียวและสมดุลกับใบหน้า

  • ขมับ: เติมเต็มขมับที่ลึกลงไป ทำให้ใบหน้าดูเต็มสุขภาพดี

  • หน้าผาก: ลดเลือนความหย่อนคล้อยและช่วยปรับผิวบริเวณบนหน้าผาก​ให้ดูเรียบเนียน

Filling Substance

นอกจากไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว ยังมีสารเติมเต็มชนิดอื่นๆ ที่ใช้

ในการปรับรูปลักษณ์ใบหน้าอีกหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและข้อดีแตกต่างกันออกไป

1. ไขมันตัวเอง (Autologous Fat Grafting)

  • หลักการทำงาน: นำไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา มาผ่านกระบวนการปั่นเพื่อแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ แล้วฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม

  • ข้อดี: ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ คงทนยาวนาน เนื่องจากเป็นเซลล์ของร่างกายเอง

  • ข้อเสีย: ต้องผ่าตัดเล็กน้อย มีระยะเวลาพักฟื้น และอาจมีไขมันตายได้บ้าง ทำให้ผลลัพธ์ไม่เท่ากันในทุกจุด

 

2. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

  • หลักการทำงาน: สกัดจากสารต้านอนุมูลอิสระจากสัตว์มาฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวดูเต็มสุขภาพดีและช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียน

  • ข้อดี: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระชับขึ้น

  • ข้อเสีย: อาจเกิดอาการแพ้ได้ง่าย ผลลัพธ์ไม่คงทนเท่าไฮยาลูรอนิก แอซิด

3. CaHA (Calcium Hydroxylapatite)

  • หลักการทำงาน: เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่คล้ายแคลเซียมในกระดูก เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและปรับรูปหน้าได้

  • ข้อดี: ผลลัพธ์คงทนกว่ากรดไฮยาลูโรนิก เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าให้ชัดเจนขึ้น

  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง

4. PMMA (Polymethylmethacrylate)

  • หลักการทำงาน: เป็นไมโครบีดขนาดเล็ก เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยให้ผิวดูเต็มและสุขภาพดี คงรูปได้นาน

  • ข้อดี: ผลลัพธ์คงทนยาวนานมาก

  • ข้อเสีย: ไม่สามารถสลายตัวได้เอง หากเกิดปัญหาจะแก้ไขได้ยาก และอาจเกิดการอักเสบได้

คุณสมบัติพิเศษของ Filling Substance

Filling Substance มีคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้:

  • ​ความคงทน: Filling Substance  มีความคงทนสูงและสามารถคงสภาพได้ยาวนาน

  • ความยืดหยุ่น: Filling Substance  มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ดี

  • คุณภาพสูง: Filling Substance  ผลิตจาก Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน

  • ไร้กังวล: Filling Substance มีคุณภาพสูงและสามารถย่อยสลายได้โดยร่างกาย

CI DDC.jpg

ข้อดีของสารเติมเต็ม

2070.jpg

การฉีดสารเติมเต็มมีข้อดีหลายประการ ดังนี้:

  • ​ผลลัพธ์: สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากทำการฉีด

  • ไม่ต้องพักฟื้น: ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจวัตร
    ประจำวันได้ทันที

  • ปรับรูปทรงใบหน้า: สารเติมเต็มช่วยปรับรูปทรงใบหน้า
    ให้มีความสมดุลและทำให้ผิวดูเต็มสุขภาพดี

  • มีประสิทธิภาพ: สารเติมเต็มที่ใช้ Hyaluronic Acid มีคุณภาพสูงและสามารถย่อยสลายได้โดยร่างกาย

การฉีดสารเติมเต็มอยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีดสารเติมเต็มสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มและตำแหน่งที่ฉีด หลังจากนั้นสารเติมเต็มจะค่อยๆ
ถูกย่อยสลายโดยร่างกายและจำเป็นต้องฉีดเติมใหม่เพื่อคงสภาพ

กราฟิก-05 (2).jpg

ฉีดสารเติมเต็มแต่ละจุดต้องใช้กี่ cc

ปริมาณสารเติมเต็มที่ใช้ในการฉีดแต่ละจุดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคลโดยทั่วไปจะใช้ดังนี้:

  • ร่องแก้ม: 1-2 cc ต่อข้าง

  • ใต้ตา: 0.5-1 cc ต่อข้าง

  • แก้ม: 1-2 cc ต่อข้าง

  • ปาก: 0.5-1 cc

  • คาง: 1-2 cc

  • ขมับ: 1-2 cc ต่อข้าง

  • หน้าผาก: 1-2 cc

การเตรียมตัวก่อนฉีดสารเติมเต็ม

การเตรียมตัวก่อนการฉีดสารเติมเต็มมีความสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:

  • ​​​​ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและรับคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดสารเติมเต็ม

  • หยุดใช้ยาบางชนิด: หยุดใช้ยาแอสไพรินและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด

  • งดดื่มแอลกอฮอล์: งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฉีดสารเติมเต็ม

การดูแลตัวเองหลังฉีดสารเติมเต็ม

การดูแลตัวเองหลังการฉีดสารเติมเต็มเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:

  • นอนหมอนสูงช่วง 3-4 วันแรก : การนอนหมอนสูงจะช่วยให้ศีรษะอยู่ในระดับที่สูงกว่าหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนมาที่ใบหน้าลดลง ส่งผลให้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปไม่กระจายตัวไปยังบริเวณอื่นๆ

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง : แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดอาการบวมช้ำจากรอยเข็มฉีดยาได้ง่ายและอาจทำให้แผลหายช้า

  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด : ความร้อนจากแสงแดดหรืออากาศร้อน จะทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบ บวม หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีดได้มากและใช้เวลานาน

  • ควรงดออกกำลังกาย 48 ชั่วโมง : การออกกำลังกายจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งอาจทำให้สารปรับรูปหน้าสลายตัวเร็ว และอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ง่าย

  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 8-16 แก้ว/ต่อวัน : สารเติมเต็มส่วนใหญ่ประกอบด้วยไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีการดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้สารเติมเต็มดูดซับน้ำได้มาก ทำให้ผิสดูอิ่มฟูและอยู่ตัวได้นาน ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

  • ห้าม บีบ นวด แกะ เกา บริเวรที่ฉีดสารเติมเต็ม  : สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปนั้น ยังไม่อยู่ตัวอย่างสมบูรณ์ การไปบีบหรือกดทับอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนย้ายออกจากตำแหน่งที่ต้องการได้ ทำให้รูปทรงที่ได้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ หรืออาจทำให้เกิดการผิดรูปได้

  • หลีกเลี่ยงการทานยาแอสไพรน : เพราะยาแอสไพรินมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด โดยจะไปยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า       ซึ่งอาจส่งผลต่อการฉีดสารเติมเต็ม เมื่อเลือดแข็งตัวช้า การฉีดสารเติมเต็มจะทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่ายและรอยช้ำอาจมีขนาดใหญ่กว่าปกติ

CI DDC.jpg

รีวิวสารเติมเต็ม

bottom of page